Popular Post

 
God of War: Ascension 

ข้อมูลโดย Mohigan
 
 
Chapter 1 - Prison of the Damned 
 
เริ่มเกมเครโทสจะถูกลงโทษจาก Megaera หนึ่งในสามเทพี Fury ให้โยกแกนอนาล็อกซ้ายขวาเพื่อทำการโยกตัวหลบหลีก และกดปุ่มสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมโจมตีมันจนตกลงมาด้านล่าง ให้ตรงเข้าไปด้านในจะมีสอนการควบคุมเบื้องต้น เมื่อไปถึงส่วนคุกจะถูก Megaera ทุบตกลงมาที่ห้องขังด้านล่าง เธอจะปล่อยแมลงวันเข้าไปสิงนักโทษจนเป็นปีศาจมาสู้กับเรา ให้จัดการพวกมันแล้วเธอจะหนีไป เดินไปที่จุดกระโดดที่พื้นกด R1 ดึงพื้นด้านบนลงมาแล้วกระโดดเกาะขึ้นไปจะพบทางออกไปที่ระเบียงด้านนอกและพบศัตรูอีกชุด จัดการแล้ว Megaera จะปล่อยแมลงเข้าไปในแขนยักษ์ของ Hecaton จนกลายร่างเป็นปีศาจมาทุบตีเรา วิธีจัดการคือให้คอยกลิ้งหลบ คอยฟันแขนและตัวมันจนมันล้มให้กด R1 ใช้โซ่ดึงตัวมันแล้วกดปุ่มตามจังหวะโจมตีมันจนตกลงมาอีกจุด วิธีสู้คือ ให้คอยโจมตีแขนถ้ามันจะกวาดแขนโจมตีก็ให้หนีลงช่องข้างๆ แต่ถ้ามันจิ้มให้รีบหลบออกจากช่อง เมื่อโจมตีไปสักพักมันจะล้มให้กด R1 ใช้โซ่แล้วกดปุ่มที่ขึ้นโชว์มาให้ถูกก็จะจัดการมันได้ แล้วพื้นจะถล่มให้คอยควบคุมทิศทางไม่ให้โดนสิ่งกีดขวางและตัวเราจะตกลงมาด้านล่าง
 
Chapter 2 - The Sewer 
ให้ปีนผนังบ่อน้ำขึ้นและปีนไต่กำแพงขึ้นมาที่ระเบียง ดันคันโยกทางซ้าย รั้วที่กั้นโซ่จะเปิดออก พร้อมกับมีศัตรูบุกเข้ามาจัดการพวกมันซะ แล้วไปกด R1 ที่โซ่ กดวงกลมรัวๆ ดึงโซ่เปิดประตูรั้วทางด้านขวา ตรงเข้าไปด้านในจะพบพวกนักโทษถูกแมลงฝังตัวจนกลายร่างเป็นปีศาจกันหมด แล้วจะมีมือขนาดยักษ์ของ Hecaton ยื่นเข้ามาจับห้องที่เราอยู่หมุนไปมาทำให้ปีศาจที่ขังอยู่หลุดออกมา ให้จัดการพวกมันแล้วจะเห็นจุดที่มีแสงสีเขียวปรากฏขึ้นมา ให้กด R1 เราจะกระโดดหนีออกมาจากห้อง
 
Chapter 3 - The Guard House 
ให้ไปทางซ้ายสับสวิตช์แล้วเฟืองตรงกลางจะเลื่อนลงมา ย้อนกลับไปตรงจุดที่มีแสงกะพริบแล้วใช้โซ่ดึงสักพักจะมีปีศาจไซคอร์ปปรากฏตัวออกมา ให้คอยฟันจากระยะไกลแล้วกลิ้งหลบจะจัดการมันและขึ้นบังคับมันฟาดศัตรูที่ออกมาเพิ่มได้ เมื่อจัดการศัตรูหมดแล้วให้ดึงเฟืองมาตรงกลาง แล้ววิ่งไปทางซ้ายปีนขึ้นด้านบนแล้วกระโดดใช้โซ่เกาะแสงสีเขียวเหวี่ยงตัวข้ามไปอีกฝั่ง แล้วเลาะไปทางขวาจะพบแสงสีเขียวอีกจุดให้กระโดดไปเกาะแล้วเหวี่ยงตัวจนหน้าต่างพัง เมื่อเข้าไปบอส Hecaton จะตามมาเราต้องสู้กับมันอีกครั้ง วิธีจัดการก็เหมือนเดิมตีแขนและตัวมันและคอยกลิ้งหลบ พอมันหมอบก็ให้เข้าไปใกล้ๆ แล้วกด R1 ดึงเพดานให้ถล่มทับมัน ให้ทำแบบนี้อีกครั้งที่ฝั่งซ้าย แล้วมันจะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีเป็นกระหน่ำทุบตรงกลางให้คอยกลิ้งหลบแล้วฟันสวนจนมันหมอบก็ให้กด R1 แล้วกดปุ่มตามจังหวะจะฆ่ามันได้ แต่ เราก็จะถูกแขนอีกข้างของ Hecaton ทุบกระเด็นเข้ามาข้างใน
ให้เข้าช่องทางซ้ายสับสวิตช์เปิดประตูแล้วเข้าไปทางขวาจะพบลิฟต์ จัดการศัตรูให้หมดแล้วกด R1 ตรงจุดที่มีแสงกะพริบจะมีศัตรูบุกออกมา จัดการให้หมดแล้วดึงแผ่นไม้ที่ล็อกลิฟต์ทั้งสองข้างออก สำรวจตรงกลาง เทพี Megaera จะดึงกำแพงอิฐตกใส่เฟืองลิฟต์ ให้กระโดดไปที่จุดนั้นแล้วกด R1 ยืดโซ่ไปเกาะจุดสีเขียวแล้วรีบปีนขึ้นไปด้านบนก่อนที่เฟืองลิฟต์จะขึ้นมาบดตัวเรา
 
Chapter 4 - The Hecatonchires 
เมื่อขึ้นมาให้ไปทางซ้ายจะพบห้องที่มีสาวๆ นอนเปลือย (แฟนเซอร์วิสชัดๆ) แต่ทว่าเครโทสจับได้ว่ามันเป็นภาพลวงจึงจัดการพวกหล่อนทันที แต่เขาก็ถูกอัดจนกระเด็นออกมาที่ลานกว้างที่ระเบียงด้านนอก ที่นี่เราต้องสู้กับศัตรูอีกฝูงจัดการพวกมันแล้ว Megaera จะปล่อยแมลงเข้าไปที่ตาของ Hecaton จนกลายเป็นปีศาจ แล้วจะมีศัตรูออกมาอีกชุด เมื่อจัดการแขนปีศาจจะงอกมาอีก 2 ด้าน เลือกฟันด้านใดด้านหนึ่งแล้วเครโทสจกระโดดขึ้นไปเกาะบังคับมันโจมตีส่วนหัว (กดสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยม) และใช้โซ่ดึงบอสเข้ามาใกล้ จากนั้นให้กระหน่ำโจมตีเธอพร้อมโยกตัวหลบไปด้วยก็จะจัดการเธอได้
 
Chapter 5 - The Village of Kirra 
3 สัปดาห์ต่อมามีชายปริศนา Orkos ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับมอบไอเทม Lost Treasure แก่เครโทส จากนั้นตรงเข้าไปด้านในจะพบอาวุธใหม่ Club ที่มีคุณสมบัติฟาดศัตรูให้กระเด็น แล้วตรงเข้าไปจะพบศัตรูใหม่เป็นช้าง 2 ตัว จัดการมันแล้วเราจะต้องแก้ปริศนา โดยเข้าไปในช่องทางซ้ายจะพบคันโยกให้หมุน ไปทางขวาดึงแท่นไปฝั่งซ้ายตรงที่มีกล่องสีแดงข้างบน ใช้แท่นกระโดดขึ้นด้านบนแล้วไต่เชือกไปฝั่งตรงข้าม เข้าไปด้านในจะได้ความสามารถใหม่ The Rage of Ares โดยกด L3 + R3 พร้อมกันเพื่อระเบิดพลังเพลิงเมื่อโจมตีศัตรูต่อเนื่องจนเกจทางขวาสะสมจนเต็ม จัดการศัตรูให้หมดแล้วจะได้ความสามารถเวทไฟ โดยกดปุ่ม R2 เมื่อจัดการศัตรูหมดแล้วประตูจะเปิดออก เข้าไปต่อจะพบศัตรูอีกชุด จัดการแล้วตรงเข้าไปอีก ไต่หน้าผาขึ้นมาชั้นบนจะพบเฟืองขนาดยักษ์ ให้ดึงดันโยกตรงกลางให้เฟืองหมุนลง แล้วใช้เฟืองนั้นเป็นแท่นกระโดดขึ้นชั้นบน ขึ้นมาจะพบประตูแต่เข้าไม่ได้ ให้ไต่ผนังทางขวาไปแต่เราจะพลาดตกสะพานลงมาด้านล่างจัดการศัตรูที่โผล่มาแล้วสำรวจตรงจุดที่มีแสงกะพริบดึงเสาหินลงมาเป็นแท่นกลับขึ้นไปด้านบน จะพบศัตรูแบบใหม่งูกอร์กอนจัดการมันแล้วเปิดประตูเข้าไป
 
Chapter 6 - The Cistern 
ด้านในจะเป็นห้องที่มีรูปปั้นหัวกระทิง ให้กระโดดขึ้นไปด้านบนจะพบทางสไลด์ เมื่อไหลไปตามทางสักพักให้ใช้โซ่ไปกระโดดเกาะแสงสีเขียวแล้วปีนไต่ขึ้นด้านบนจะได้พลังใหม่Ice of Poseidon แล้วเข้าไปต่อจะสำรวจจุดที่มีแสง เราจะขึ้นไปบนรูปปั้นงูส่งเข้าไปที่หอคอย ให้กระโดดเข้าไปด้านในแล้วปีนขึ้นไปบนหอคอย
 
Chapter 7 - The Tower of Delphi 
ที่นี่จะพบศัตรูที่เป็นคิเมร่า จัดการมันแล้วดึงคันโยกมาตรงกลางจะมีทางเข้าปรากฏออกมา ให้เข้าไปจะพบรังปีศาจจัดการพวกมันให้หมดแล้วตรงเข้าไปต่อจะมีทางออกจากตัวงู แล้วเดินไปตามทางจะพบจุดที่มีแสงสีเขียวให้กระโดดใช้โซ่เกาะโหนตัวเข้าไปด้านใน
 
Chapter 8 - The Phyton’s Belly
ที่นี่จะได้พลังสายฟ้า Lightning of Zeus จากนั้นให้ตรงไปตามทางจะพบสัตว์ประหลาดสีดำจัดการมันแล้วจะปลดล็อกงูตัวที่สองส่งพลังงานไปที่หอคอย แล้วตรงไปต่อปลดล็อกงูตัวที่สาม
 
Chapter 9 - The Carverns
หุ่นงูจะบินเข้าไปที่ถ้ำ Ice Carverns ให้ฟันไม้ที่กั้นขวางทางปล่อยให้งูพาเข้าไปด้านในแล้วจะพบจุดที่มีแสงสีเขียว ให้กระโดดไปเกาะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนงูตัวที่สามไปเกาะหอคอย ปีนขึ้นไปที่ลานบนหอคอยแล้วจะต้องสู้กับปีศาจแมนติคอร์ วิธีจัดการคือ ให้คอยกลิ้งหลบตอนมันพ่นไฟ ไล่โจมตีจัดการดึงปีกมันจนมันตกลงมากับพื้นแล้วมันจะเรียกลูกน้องออกมาช่วย ให้ใช้โซ่ดึงลูกน้องมาเหวี่ยงใส่มันหรือจัดการพวกลูกน้องก่อนค่อยไปจัดการบอสก็จะชนะมันได้
 
Chapter 10 - Temple of Delphi 
จากนั้นให้ไปดึงแกนตรงกลางประตูทางเข้าก็จะเลื่อนเข้ามา ให้ตรงเข้าไปในวิหารจะพบกับปีศาจเครเบรอส ให้สู้กับมันสักพักแล้วมันจะเรียกลูกจ๊อกออกมา ให้จับพวกมันปาใส่สลับกับโจมตีก็จะจัดการมันได้ไม่ยาก แล้วใช้โซ่ดึงแท่นด้านหน้าเป็นบันไดยื่นออกมา เมื่อขึ้นไปจะพบว่าประตูด้านหน้าล็อกปิดอยู่ ให้เดินไปที่กลุ่มควันสีเขียวแล้วเวลาจะเหมือนกับถูกย้อนไปในอดีต ให้กลับไปที่ประตูหน้าแล้วฟันทำลายประตูเข้าไป
ด้านในจะพบห้องที่มีนาฬิกาทรายอยู่ตรงกลางและพวกคนงานกำลังขนรูปปั้นอยู่ เมื่อจบคัตซีนให้เดินเข้าไปที่ควันสีเขียวแล้วไปทางซ้ายฟันทำลายประตูเข้าไปด้านในสุดจะมีควันสีเขียวอีกจุด เข้าไปแล้วพื้นจะถล่มลงไปในโซน The Delphi’s Catacomb
ให้ลงไปจะได้พลังของฮาเดส Soul of Hades มาใช้ จากนั้นจัดการศัตรูให้หมด เข้าไปต่อจะพบห้องที่มีรูปปั้นที่ใช้ค้อนและมันจะออกมาสู้กับเรา จัดการแล้วดึงรูปปั้นมาทางซ้ายเป็นแท่นกระโดดขึ้นบันไดไปชั้นบน แล้วไปสับคันโยกทางขวา พื้นจะเลื่อนลงมาด้านล่างที่เป็นพื้นหนาม ให้กระโดดขึ้นบนโคมที่แขวนแล้วใช้โซ่ดึงรูปปั้นงูจะมีควันสีเขียวปล่อยออกมาทำให้เวลาย้อนกลับไปอดีตให้รีบวิ่งข้ามไป กระโดดเกาะโคมอีกอันแล้วใช้โซ่ดึงรูปปั้นงูให้ควันสีเขียวออกมาอีก แล้วรีบตรงไปใช้โซ่ไปยึดตรงแสงสีเขียวเหวี่ยงตัวชนประตูเข้าไป
เราจะพบห้องที่มีควันสีเขียวอีก ให้เข้าไปแล้วรอสักพักพื้นจะถล่มและมีศัตรูออกมา จัดการมันซะ ระหว่างนั้นประตูทางขวาจะเปิดออกให้รีบวิ่งเข้าไปที่ควันสีเขียวแล้วรีบตรงเข้าไปจะพบห้องที่มีนาฬิกาทรายแล้วศัตรูจะปรากฏออกมา จัดการพวกมันซะแล้วเราจะต้องแก้ปริศนาในห้องนี้
 
Chapter 11 - The Delphi’s Catacombs 
ให้ไปโยกคันโยกที่ห้องทางขวาแล้วไปที่ควันสีเขียว พื้นจะถล่มลงมาให้กระโดดไปที่กองหินนั้นจะมีจุดสีเขียวให้เกาะขึ้นด้านบนและกระโดดขึ้นไปที่โคมที่แขวนกลางห้อง กระโดดไปข้างหน้าและไปทางซ้ายสับสวิตช์แล้วตรงเข้าไปด้านในเลี้ยวขวาเดินเข้าควันสีเขียวให้เวลาย้อน แล้วเดินไปทางขวาทุบประตูที่ร้าว ย้อนกลับมาที่ควันสีเขียวอีกครั้ง ให้เดินย้อนกลับมาตรงที่พื้นยุบลงไปจะพบศัตรู จัดการให้หมดแล้วไปดันรูปปั้นทางขวามารอตรงช่องที่เราตกลงมา เดินไปทางซ้ายปีนบันไดขึ้นไปรมควันอีกครั้งแล้วให้กระโดดลงมา ดันรูปปั้นเข้าช่องให้ฤทธิ์ควันหมดให้พื้นดันรูปปั้นขึ้นมาด้านบน จากนั้นดันรูปปั้นให้เข้าประตูที่เราทุบตอนแรกแล้วผลักรูปปั้นตกลงมายังห้องโถงที่มีนาฬิกาทราย ดันรูปปั้นมาที่สวิตช์หน้าห้องเพื่อเข้าไปเก็บไอเทมทางซ้าย แล้วดันรูปปั้นไปชิดลานวงกลมกลางห้องเข้าไปในควันสีเขียวทางขวาแล้วกระโดดขึ้นไปบนรูปปั้น ให้กระโดดขึ้นบนโคมเข้าไปใช้โซ่ดึงโคมชนนาฬิกาทรายตกลงมาทับสวิตช์เปิดช่องลงมาด้านล่าง
 
Chapter 12 - The Oracle’s Chamber 
เมื่อตกลงมาจะพบ Pollux and Castor เขาจะหนี ให้รีบวิ่งตามโดยพื้นจะค่อยๆ ถล่ม ให้คอยกะจังหวะกระโดดแล้วเกาะแสงสีเขียวข้ามไปเรื่อยๆ แล้วจะได้สู้กับเขา ซึ่งบอสตัวนี้มีเทคนิคในการผ่านได้ง่ายๆ โดยการตีเสาให้หินหล่นลงมาแล้วเขวี้ยงใส่มัน หรือถ้าใครอยากจะโซโล่หวดเดี่ยวก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องระวังวงพื้นสีเขียวที่บอสโจมตี มันจะทำให้เราเคลื่อนไหวช้า กับท่าที่ทำให้พื้นถล่ม ให้กะจังหวะดีๆ ก็สามารถหลบได้ไม่ยากนัก หลังจากที่ฆ่าได้เราจะหล่นลงมาพร้อมกับได้สร้อย Amulet of Uroborus ที่มีความสามารถฟื้นสภาพสิ่งของให้กลับเป็นแบบเดิมได้
 
Chapter 13 - Passage To Delphi 
จากนั้นให้กด L2 ค้างที่หน้ากองหินแล้วดันแกนขวาเราจะใช้ความสามารถของสร้อยฟื้นสภาพเดิมของกองหินข้างหน้าเป็นสะพานได้ แต่ให้ฟื้นแค่ครึ่งเดียวแล้วกระโดดขึ้นไปบนกองหินนั้นขึ้นไปด้านบน แล้วค่อยกดฟื้นสภาพสะพานให้เป็นแบบเดิมแล้วข้ามไปจะพบ Aletheia ที่บาดเจ็บหนัก ก่อนตายเธอจะบอกวิธีจัดการ Fury แก่เครโทส จากนั้นตรงเข้าไปด้านใน โดดลงสะพานจะพบศัตรูอีกชุดพร้อมกับสอนให้ใช้ความสามารถของสร้อยในการทำให้ศัตรูชะงักโดยกด L2 ค้างแล้วกดสี่เหลี่ยม จะทำให้ศัตรูตัวลอยค้างเปิดโอกาสให้เราโจมตี เมื่อจัดการหมดตรงไปทางซ้ายจะพบทางขาดให้ใช้สร้อยฟื้นสภาพเป็นสะพานจะพบทางเข้า The Cistern
 
Chapter 14 - The Cistern 
กระโดดออกจากสะพานที่ช่องทางขวาลงมาด้านล่างจะพบศัตรูอีกชุด จัดการแล้วเดินตรงเข้าไปตรงที่มีหีบ ทางซ้ายจะมีช่องอยู่ เข้าไปจะพบศัตรูจัดการแล้วเดินไปทางซ้ายใช้สร้อยซ่อมสะพานแล้วข้ามไป เดินเลาะหน้าผาออกมาจะพบว่าเราย้อนกลับมาที่เฟืองยักษ์ที่เจอในตอนแรก ให้กระโดดขึ้นบนเฟืองแล้วใช้สร้อยฟื้นสภาพมันให้มันค้างอยู่ครึ่งหนึ่งแล้วลงมาด้านล่าง ดึงคันโยกให้สุดแล้วใช้สร้อยปรับสภาพให้มันเป็นซาก จะทำให้เศษเฟืองตกลงมากั้นคันโยกพอดี ให้กระโดดขึ้นเฟืองไปด้านบนแล้วใช้สร้อยสร้างสะพานที่หายไปจนเป็นทางน้ำเปิดทางลงชั้นใต้ดิน
 
Chapter 15 - The Grotto 
ให้ดำน้ำเข้าไปด้านในจะพบศัตรู 2 ตัว จัดการแล้วเดินย้อนมาที่ตัวล็อกโซ่ทั้ง 2 ข้าง กดใช้สร้อยทำลายมันประตูทางเข้าจะเปิด เข้าไปแล้วกระโดดลงน้ำ ดำน้ำลอดช่องกำแพงที่แตกเข้าไปด้านในจะพบท่าเรือ The Harbor of Kirra ขึ้นไปบนเรือจะพบกับ Orkos เขาจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง

ที่มา : www.online-station.net/

Leave a Reply

Subscribe to Posts | Subscribe to Comments

- Copyright © Game Review - Date A Live - Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan -