- Back to Home »
- บทสรุปเกม Tomb Raider [Part II]
ให้กระโดดเกาะกระเช้าเข้าไปยังหอด้านในจะพบศัตรูอีกชุด แล้วสักพักมันจะจับกริมเป็นตัวประกัน แต่กริมไม่ยอมตายเพื่อไม่ให้เราถูกจับ ให้ไต่เชือกขึ้นไปด้านบน จะมีศัตรูโผล่ออกมาตัดเชือก เราจะกระโดดไปเกาะที่หน้าผาได้ทัน แต่ยังถูกธนูไล่ยิง กัปตันจะมาช่วยส่องสไนเปอร์จัดการศัตรูให้กับเราได้ทันเวลา เขาจะให้เราเดินทางไปต่อ โดยเขาจะช่วยยิงจัดการศัตรูตามรายทางให้ ให้ปีนขึ้นชั้นบนเรื่อยๆ จนถึงส่วนสะพานตรงนี้ หยุดรอให้เพื่อนเราจัดการยิงศัตรูบนสะพานก่อนแล้วค่อยกระโดดข้ามไป (ฟังเสียงกัปตันตะโกนบอกStop ให้หยุด) แล้วปีนหน้าผาเข้าไปในถ้ำจะพบแซมกำลังถูกบูชายัญ เมื่อเข้าไปช่วยจะถูกรุมยำและยึดอาวุธไปเหลือแต่ธนูเท่านั้น แต่เราจะหนีมาได้ ให้ตรงไปตามทางจะพบทางที่มีควันสีเหลือง ให้ใช้ธนูไฟยิงใส่มันจะระเบิดแล้วควันจะหายไป ให้รีบวิ่งผ่านไปจะพบเบสแคมป์ - The Pitให้ตรงเข้าไปต่อจะพบห้องที่มีเผ่ากินคน ไม่ต้องสนใจให้ลงไปด้านล่างหมุนวาล์วทางขวาจะมีควันสีเหลืองพุ่งออกมา ให้ใช้ธนูไฟยิงระเบิดประตูที่ปิดอยู่ แล้วเข้าไปด้านในจะพบกลุ่มยามเดินตรวจตรา ลอบจัดการพวกมันแล้วเดินขึ้นเนินทางขวา หมุนวาล์วให้ควันพุ่งออกมาแล้วยิงธนูไฟใส่ให้มันระเบิดกรงเหล็กตกลงมาข้างล่างไว้ใช้เป็นแท่นปีนเข้าไปจะพบศัตรู จัดการแล้วเข้าไปด้านในจะพบห้องที่มีพวกศัตรูกำลังล้อมฟังผู้นำอยู่ ให้จัดการพวกมันซะ (แนะนำให้วิ่งลอดควันสีเหลืองที่อยู่ตรงซอกถ้ำฝั่งตรงข้าม แล้วดักยิงจากตรงนั้น ถ้าศัตรูเข้ามาใกล้ก็ยิงใส่ควันให้ระเบิดก็จะสามารถจัดการพวกมันได้สบายๆ) เมื่อจัดการหมดแล้วให้ออกจากซอกนั้นแล้วหันกลับหลัง ตรงซอกจะมีแท่งไม้ที่มีเชือกพันอยู่ตรงนั้นมันจะผูกกรงเหล็กไว้ ให้ใช้ธนูดึงมันหมุนออกมาแล้วยิงควันให้ระเบิดอัดโครงเหล็กใส่ประตูแล้วให้รีบหนีออกไป จะพบพวกศัตรูกำลังขนของอะไรบางอย่างให้ลอบฆ่าพวกมันให้หมด จะพบเพื่อนเรา 3 คน คือ โจนาร์ อเล็กซ์ และเรเยส ถูกจับขังอยู่บนซากเครื่องบินที่แขวนอยู่ วิธีช่วยคือ ให้หมุนวาล์วที่อยู่ใต้เครื่องบินให้ควันพุ่งออกมาแล้วยิงให้ระเบิด จะทำให้ตะแกรงเหล็กที่ติดอยู่ตรงซากไม้หลุดออกมา ให้กระโดดขึ้นบนตะแกรงแล้วโดดขึ้นไปบนซากเครื่องบิน จากนั้นให้สังเกตด้านหน้าจะมีจุดที่มีควันสีเหลืองพุ่งออกมา 2 จุด ให้ยิงธนูไฟใส่จุดล่างให้กรงเหล็กกระเด็นขึ้นไปด้านบนแล้วยิงใส่จุดบนให้ระเบิดกรงเหล็กจนระเบิดเราจะพลัดตกแต่เพื่อนเราจะดึงไว้ได้ทันให้ปีนกลับขึ้นมาด้านบน แล้วหันมาทางขวาจะเห็นวาล์ว 2 อัน ให้กระโดดข้ามไปหมุนให้ควันพุ่งออกมาแล้ววิ่งไปหลบตรงมุมให้ห่างจากควันแล้วยิงธนูไฟใส่ แรงระเบิดจะอัดซากเครื่องบินไปติดอีกฝั่งเปิดประตูให้เพื่อนเราหนีออกมาได้พอดี จากนั้นให้กระโดดเกาะตะแกรงเหล็กที่แขวนอยู่ข้ามเข้าไปในปราสาท จะพบว่ามันกำลังถล่มจากแรงระเบิด ให้รีบวิ่งหนีออกไป ก่อนถึงทางออกลาร่าจะพบเบาะแสและเข้าใจเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้จากบันทึกในห้อง และเมื่อหนีไปต่อจะพบดอกเตอร์วิทแมนที่มีท่าลุกลน เขาจะอาสาดูแลด้านหลัง ให้เข้าไปต่อจะผู้นำลัทธิมาเทียวจับแซมไว้ที่นี่ แต่มันจะถูกเรียกให้เข้าไปข้างในเปิดโอกาสให้ลาร่าลอบจัดการคนเฝ้าแล้วเข้าไปช่วยแซมและได้อาวุธที่ถูกยึดคืนไปทั้งหมดกลับคืน และจะมีศัตรูบุกเข้ามาลาร่าจะให้แซมหนีไปก่อน จากนั้นจัดการพวกมันให้หมดแล้วให้หนีออกจากปราสาทจะพบว่าพวกมันใช้ปืนกลหนักดักยิงใส่ ให้คอยวิ่งหลบเข้าไปแล้วกระโดดเกาะเชือกโรยตัวไปไปจัดการมันแต่จะถูกผลักตกลงมาด้านล่าง พร้อมปืนหัวระเบิด ให้หยิบแล้วกดRB ยิงใส่จัดการมัน แล้วลาร่าจะเอาหัวระเบิดมารวมกับปืนกลเป็นปืน Grenade Launcher ทำให้ปืนกลสามารถยิงกระสุนปืนกลและกระสุนหัวระเบิดได้ ซึ่งปืนหัวระเบิดจะสามารถทำลายกำแพงที่เป็นแผ่นเหล็กได้ เข้าไปต่อจะพบศัตรูอีกชุดจัดการแล้วแล้วปีนเข้าไปด้านในจะพบแผ่นเหล็กกั้นอยู่ ให้ใช้ปืนระเบิดทำลายเข้าไปต่อจะพบแซมกำลังถูกไล่จับตัว ให้รีบโหนเชือกลงไปด้านล่างจะมีพวกศัตรูออกมาขวางอีกชุดใหญ่ จัดการพวกมันซะแล้วเข้าไปจะพบพวกศัตรูใช้สปอตไลท์ส่องเป้าเราแล้วใช้ปืนกลยิง ให้คอยวิ่งหลบสปอตไลท์บุกเข้าไปที่ตึกทางซ้าย ปีนขึ้นไปแล้วแล้วโหนเชือกข้ามที่ตึกฝั่งขวา จะมีช่องให้ใช้ปืนระเบิดยิงใส่ป้อมปืนกลของศัตรูแล้วโหนตัวเข้าไปจะพบแซมอยู่อีกฝั่งของประตู ลาร่าจะให้แซมแยกกันแล้วไปเจอที่จุดนัดพบ จากนั้นให้ปีนเข้าไปในป้อม ศัตรูจะปาระเบิดขวดทำให้ในห้องไฟลุกไหม้ ให้รีบปีนออกมาจะเห็นเฮลิคอปเตอร์ และศัตรูไล่ตามมาให้วิ่งหนีไปที่เฮลิคอปเตอร์ กัปตันจะดึงตัวเราขึ้นไปก่อนที่ประสามทถล่ม แต่จากสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้เฮลิคอปเตอร์ตก เมื่อกัปตันฟื้นขึ้นมาเห็นลาร่าสลบอยู่จึงเข้าไปช่วยแต่พวกศัตรูจะตามมาทำร้ายพร้อมปาขวานใส่ร็อบจึงสละตัวเองป้องกันให้ล่าร่าและเสียชีวิตที่นี่ แล้วเพื่อนๆ เราจะเข้ามารวมตัวกันและเสียใจกับการตายของกัปตัน ให้เดินไปตามแนวป่าจะพบพวกศัตรูกำลังเดินลาดตระเวนอยู่ ให้ซุ่มจัดการพวกมัน (ทางด้านขวาจะมี Secret Tomb อยู่) เมื่อเคลียร์เส้นทางแล้วให้ขึ้นเนินไปตรงเข้าไปในถ้ำข้ามสะพานไป ธนูเชือกดึงเปิดประตูเข้าไปจะพบห้องที่มีหมาถูกขังอยู่ในกรง ให้ปีนบันไดขึ้นไปบนแท่นทางซ้าย ใช้ธนูเชือกดึงศพที่แขวนให้ราวหมุนออกมา แล้วใช้มันกระโดดข้ามไปอีกฝั่ง ตรงเข้าไปจะพบเชือกที่ขึง ให้โหนตัวลงไปที่หอคอยกระเช้าที่อยู่ด้านใน แล้วให้กระโดดขึ้นกระเช้าเพื่อเข้าสู่หุบเขา Secret Tomb – Stromguard Sactum วิธีผ่าน ให้ใช้ธนูไฟยิงควันสีเหลืองให้ระเบิด แล้วให้รีบกระโดดปีนแผ่นไม้ตรงนั้นขึ้นมาชั้นบน จากนั้นให้ยิงจุดคบเพลิงที่แขวนอยู่ จะเห็นกองไม้ขวางทางอีกฝั่งให้ใช้ธนูไฟเผาแล้วค่อยกระโดดข้ามไปที่ฝั่งนั้นเพื่อเข้าไปเอาสมบัติ เมื่อกระเช้าเลื่อนมาถึงด้านในมันจะติดขัด ให้ใช้ธนูเชือกยิงใส่เชือกที่พันหอคอยที่อยู่ใกล้ๆ โรยตัวไปที่นั่นแล้วปีนบันไดขึ้นไปโหนเชือกไปที่เรือกที่แขวนอยู่แล้วจะมีศัตรูบุกเข้ามา จัดการพวกมันสักพักแล้วศัตรูจะยิงเชือกที่แขวนเรือจนขาดทำให้เรือพลิก ให้รีบปีนขึ้นไปแล้วกระโดดเกาะเชือกโรยตัวหนีไปลงไปข้างล่าง เดินไปตามทางจะพบกับท่าต่อเรือและเบสแคมป์ – Survivor’s Camp ให้ตรงไปที่เรือจะพบเพื่อนเรารออยู่ที่นั่น แต่ทว่าเรือใช้งานไม่ได้จำเป็นต้องหาอุปกรณ์มาซ่อม พวกเราจึงต้องแยกกันออกไปหาของให้ตรงไปที่ประภาคารโดยกดเรดาร์หาเป้าหมาย แล้วกระโดดข้ามสะพานขาดเข้าไปที่นั่น ระหว่างทางจะผ่านซากเรือจะมีพวกศัตรูเฝ้าอยู่ให้จัดการพวกมันแล้วปีนขึ้นไปบนเรือ ใช้ปืนยิงตัวล็อกสมอเรือให้ตกลงมา จะทำให้เสากระโดงเรือพาดไปอีกฝั่ง แล้วลาร่าจะหยิบตัวล็อกมาแล้วให้ย้อนกลับไปหาเพื่อนเรา สักพักจะได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ให้รีบกลับไปช่วย จากนั้นโจน่าจะให้ธนูแบบใหม่แก่เรามาใช้ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถเจาะกำแพงปูนได้จากนั้นให้กดเรดาร์จะพบเป้าให้ตรงไปตรงจุดที่มีทุ่นสีแดงตรงทะเล ตรงนั้นจะมีกำแพงปูนอยู่ให้ใช้ธนูยิงเชือกไปติดแล้วปีนเชือกข้ามไปที่นั่นเพื่อตรงเข้าไปที่ประภาคารจะพบกลุ่มศัตรู จัดการพวกมันซะ เข้าไปด้านในต่อ (บ้านก่อนข้ามสะพานมี Secret Tomb อยู่) Secret Tomb – The Flooded Vault ขึ้นมากดสวิตช์สีเขียวบนห้องแล้วลงมากดสวิตช์เปิดประตูด้านล่าง จะพบว่าในห้องมีน้ำขังและมีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่ ให้เดินไปทางซ้ายจุดไฟเผาเชือกที่ผูกแพอยู่ และเดินไปทางขวาใช้ช็อตกันยิงทำลายแผ่นไม้ที่กั้นช่อง แล้วใช้ธนูเชือกยิงลากแพเข้ามาทางขวา ใช้แพเป็นแท่นกระโดดเข้าไปตรงกลาง จากนั้นมองขึ้นด้านบนจะเห็นแท่งเหล็กให้ใช้ธนูเชือกดึงจะทำให้ไฟสปอตไลท์ที่แช่น้ำอยู่ลอยขึ้นมาแล้วให้รีบวิ่งข้ามไปฝั่งตรงข้าม ดึงแพมาตรงสปอตไลท์แล้วดึงสปอตไลท์ขึ้นมาวางบนแพ ก็จะทำให้ไฟฟ้าไม่รั่วลงกระแสน้ำ แล้วเดินลุยน้ำไปทางซ้ายขึ้นไปเอาสมบัติ ข้ามสะพานไปแล้วตรงไปตามทางจะพบฐานทัพศัตรูอยู่ด้านใน ให้ใช้ธนูเชือกยิงไปเกาะหน้าผาข้ามเข้าไปจะพบศัตรูกำลังขนของกันอยู่ ให้ลอบจัดการพวกมันแล้วออกไปด้านนอกจะพบเบสแคมป์ แล้วให้โหนเชือกเข้าไปที่เรือที่กำลังสร้างอยู่ตรงกลางทะเล จะพบหัวหน้าและลูกเรือ 2 คน จัดการมันซะจะได้ไอเทม Rope Ascender ที่เป็นรอกช่วยดึงของหนักๆ เมื่อใช้ธนูเชือกยิงไปเกาะสิ่งของต่างๆ หรือจะไว้ช่วยดึงตัวเราไปยังเป้าหมายไว้ขณะไต่เชือกได้ด้วยจากนั้นให้ดึงกล่องเหล็กที่แขวนอยู่โดยใช้ธนูเชือก แล้วกด X ค้างจะเป็นการใช้รอกช่วยดึงทำให้มันตกลงใส่เรือจนเป็นหลุม ให้กระโดดลงไป ด้านในจะมีศัตรูอยู่ตามทาง จัดการแล้วเข้าไปต่อจะพบห้องมีน้ำขังด้านในจะพบอเล็กซ์บาดเจ็บอยู่แต่เข้าไปไม่ได้เพราะมีสายไฟขวางประตู เราจะต้องแก้ปริศนาในห้องนี้ โดยไปยืนหน้าประตูที่มีสายไฟขวางแล้วมองขึ้นไปบนเพดาน ใช้รอกดึงบันไดเลื่อนมาแต่มันจะติดท่อเหล็กขวางอยู่แล้วให้ใช้รอกดึงบันไดไปทางซ้าย จากนั้นดึงลงมาแล้วดันไปทางขวาจะสามารถปีนขึ้นไปด้านบนถีบท่อที่ขวางอยู่จนหลุด แล้วดึงบันไดกลับไปให้เหมือนตอนแรกแล้วใช้รอกดึงมาใส่ประตูอีกครั้งจะเปิดทางเข้าไปหาอเล็กซ์ได้ แต่ว่าเขาอาการสาหัสท่อเหล็กทับขาเขาอยู่แล้วจะมีศัตรูบุกเข้ามา จึงตัดสินใจสละตัวเองที่นั่นและให้อุปกรณ์กับลาร่าไปซ่อมเรือให้หนีออกมาก่อนที่เรือระเบิดกลับมาที่เบสแคมป์ แล้วใช้รอกดึกแท่งเหล็กบนประตูไม้ลงมาจะทำให้พื้นแตกเป็นช่องลงไปจะพบบันทึก จากนั้นกดดูเรดาร์นำทางเพื่อกลับไปหาเพื่อนเราที่ชายหาดและแจ้งการตายของอเล็กซ์กับเพื่อนๆ (เมื่อได้ Rope Ascender มาแล้ว ใกล้กับเบสแคมป์ – Survivor’s Camp จะมี Secret Tomb อยู่โดยเป็นเพิงที่มีเชือกพันให้ดึงออกก็จะพบทางเข้า) Secret Tomb – Temple of The Handmaidens วิธีผ่านคือ ให้หมุนเฟืองให้ทุ่นลอยไปทางซ้าย แล้วรีบขึ้นไปทางซ้าย รอทุ่นไหลไปชนแท่นไม้ให้หมุนมาใช้กระโดดเกาะข้ามไป แล้วใช้ธนูเชือกยิงแท่นไม้ด้านในให้หมุนแล้วรอให้ทุนมาชนให้หมุนอีกที จะมีแท่งให้กระโดดเกาะโหนไปเกาะหน้าผาปูนอีกทีแล้วปีนขึ้นไปเก็บสมบัติด้านบน ให้เดินไปที่ลิฟต์ใกล้ๆ หาด ใช้รอกดึงประตูออกสับสวิตช์ให้ลิฟต์ลงมาแล้วปีนขึ้นไปด้านบนแท็งค์จะพบกระเช้าให้ใช้ธนูเชือกดึงมาใช้มันเป็นแท่นกระโดดข้ามไปที่สถานีวิจัย Research Base ด้านบนจะมียามตรวจตราอยู่ ให้จัดการแล้วกระโดดไต่หน้าผาขึ้นมาด้านบนจะพบหินอุดช่องทางเข้าอยู่ ให้ใช้รอกดึงออกแล้วเข้าไปจะพบช่องให้ไต่ผนังลงมาแล้วปล่อยตัวตกลงมาที่ทางน้ำด้านล่าง ตรงเข้าไปจะพบเบสแคมป์ - Research Lab และศัตรูเดินลาดตระเวนอยู่ ให้จัดการแล้วตรงเข้าไปด้านกดสวิตช์ไฟสีเขียวเข้าไปจะพบลิฟต์ ให้กดสวิตช์เลื่อนลิฟต์ลงมาจะพบว่าเฟืองที่เลื่อนมีปัญหา (ให้กด LB จะเห็นตัวล็อกทั้ง 4 อัน ให้ปีนกล่องขึ้นไปถอดเฟืองอันแรกออก จากนั้นเดินเข้าไปในลิฟต์ ปีนช่องด้านในออกไปด้านหลังอ้อมมาปลดล็อกประตูทางขวา ขึ้นไปชั้น 4 กดลิฟต์แล้วเดินลงบันไดย้อนกลับไปที่ชั้น 3 ตรงใกล้ๆ สวิตช์มองขึ้นด้านบนจะพบบันได ปีนขึ้นไปทำลายเฟืองอันที่ 2 ให้ออกมากดลิฟต์ให้มาที่ชั้น 3 แล้วลงบันไดไปตรงระหว่างกลางชั้น 2 และ 3 จะมีที่ให้กระโดดขึ้นไปทำลายเฟืองชิ้นที่ 3 จากนั้นให้ขึ้นมาได้ที่ชั้น 4 กดสวิตช์ให้เลื่อนขึ้นมา กระโดดลงไปในลิฟต์แล้วกระโดดไปเกาะผนังที่ช่องแตกทางขวาจะเป็นทางเข้าไปทำลายเฟืองอันสุดท้าย แล้วให้ลงมาที่ชั้น 1 เข้าไปจะพบว่ามีพวกศัตรูเดินออกมตรวจสอบ ให้จัดการพวกมันแล้วตรงเข้าไปด้านในจะพบแท่นบูชาที่มีศพซามูไร ลาร่าจะเข้าไปสำรวจและดึงดาบที่ปักศพออกมา สำรวจที่ด้ามจะพบบันทึกที่ซามูไรคนนี้บันทึกไว้เกี่ยวกับราชินีฮิมิโกะ สักพักจะมีศัตรูบุกเข้ามา จัดการพวกมันแล้วปีนขึ้นมาด้านบนจะมีทางออกมาด้านนอกและจะได้สัญญาณติดต่อจากเพื่อนว่าถูกโจมตี ให้รีบกลับไปจะพบว่าแซมถูกจับตัวไปอีกแล้ว และลาร่าจะเล่าเหตุกาณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเพื่อนและตกลงกันว่าจะเข้าไปช่วยแซมและทำลายคำสาปที่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้ จากนั้นขึ้นไปที่เรือซึ่งตอนนี้เพื่อนเราซ่อมเสร็จแล้ว ออกเดินทางเข้าไปในหุบเขาจะพบแซมกำลังถูกคุมตัว เข้าไปด้านในวิหารที่มีซามูไรเฝ้าอยู่ ดอกเตอร์วิทแมนจะทำเก่งเข้าไปคุยแต่ก็ถูกซามูไรฟันตายคาที่ แต่มาเทียสก็อาศัยจังหวะลอบพาแซมเข้าไป เมื่อเราตามเข้าไปก็เกิดพายุพัดถล่มจนสะพานขาด จากนั้นให้มองไปทางขวาจะเห็นกำแพงหินปูนให้ใช้ธนูเชือกไปเกาะข้ามไปลอบเข้าไปในวิหาร ตรงเข้าไปจะพบห้องที่เป็นทางตัน ให้ใช้ไฟจุดเผากองไม้กำแพงกลางห้องจะพบทางเข้าเมื่อลอดเข้าไปจะพบกองทัพซามูไรเดินขบวนอยู่ ให้เดินลอบข้ามไปอีกฝั่งไต่ผนังข้ามไปที่ช่องหน้าต่างที่แตกด้านในแต่เมื่อกระโดดไปเกาะมือจะไปโดนเศษกะโหลกที่อยู่แถวนั้นตกหล่นมาทำให้ซามูไรรู้ตัวออกไล่ตามเรา ให้รีบวิ่งจะมีซามูไรตามมาอีก 3 ตัว จัดการแล้วตรงเข้าไปต่อจะพบเบสแคมป์ – Sheltered Hallwayตรงไปต่อจะพบแซมกำลังถูกพาเข้าไปที่วิหาร ให้ตามเข้าไปจะพบพวกซามูไรออกมาขวางและแห่ออกมาจัดการเราเป็นจำนวนมาก ให้จัดการทีละตัวบุกเข้าไปถึงหน้าวิหารจะมีซามูไรยักษ์ปรากฏตัวออกมา ขณะที่มันออกมาทำร้ายเรา ลมได้พัดเข้ามาแรงมากจนทำให้มันปลิวกระเด็นเปิดโอกาสให้เข้าไปในวิหารได้อย่างง่ายดาย ให้เปิดประตูเข้าไปจะพบห้องให้แก้ปริศนา โดยให้เดินไปทางซ้ายจะมีที่ให้กระโดดเกาะขึ้นชั้นลอยแล้วเดินอ้อมมาที่เฟืองฝั่งขวา เข้าไปหมุนเปิดพื้นที่อยู่ตรงกลางห้อง แล้วข้ามไปหมุนเฟืองที่อยู่ฝั่งซ้ายดึงกรงเหล็กขึ้นมา แล้วย้อนกลับไปฝั่งขวาหมุนเฟืองปิดพื้น และกลับไปฝั่งซ้ายหมุนเฟืองอีกทีให้กรงเหล็กเลื่อนลงมาบนพื้น จากนั้นขึ้นไปชั้นลอย ใช้ธนูเชือกดึงกรงเหล็กให้ลอยทุบประตูฝั่งตรงข้ามจะเห็นช่องแตกด้านบน ให้ใช้ธนูดึงอีกทีแล้วให้รีบกระโดดขึ้นไปบนนั้น รอมันแกว่งไปที่ประตูฝั่งตรงข้าม ค่อยกะจังหวะกระโดดข้ามไปด้านใน แล้วเปิดประตูข้ามสะพานเข้าไปที่วิหาร จะพบแซมถูกลากเข้าไปด้านใน และจะมีไฟไหม้ลุกขึ้นมาปิดทางเข้า ให้เข้าช่องทางซ้ายยิงธนูเชือกไต่ขึ้นไปด้านบน จะพบห้องที่มีระฆังแขวนอยู่ ให้มายืนทางซ้ายของระฆังแล้วยิงธนูดึงระฆังจะถูกลงแกว่งไปชนประตูจนพัง ให้เข้าไปแล้วปีนขึ้นชั้นบน แล้วมองบนเพดานจะมีระฆังแขวนอยู่อีกใบ ให้ใช้ธนูยิงแล้วไต่เชือกเข้าไปด้านใน แล้วเพื่อนเราจะติดต่อมาว่าพวกสาวกจำนวนมากได้บุกเข้ามา ให้รีบปีนขึ้นไปด้านบนจะพบมาเทียสกำลังบูชายัญแซมตรงกลางวิหาร ให้รีบวิ่งเข้าระหว่างทางจะมีศัตรูคอยออกมาขวางตามรายทาง จัดการพวกมันซะจนสุดทางจะพบกับซามูไรยักษ์ที่ถูกลดพัดไปและเราจะต้องจัดการมัน วิธีจัดการคือ อย่าเข้าไปใกล้ เพราะจะถูกมันจับเหวี่ยงออกมาทันที ให้คอยจังหวะที่มันฟันแดชอ้อมมาด้านหลังแล้วกระหน่ำยิง ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้ามีลูกสมุนมันออกมาก็ให้จัดการพวกมันก่อน แล้วค่อยไปจัดการบอสด้วยสเต็ปเดิม มีกระสุนเท่าไหร่จัดให้หมดเพราะเป็นบอสตัวสุดท้ายแล้ว เมื่อเข้ามาถึงใจกลางวิหาร มาเทียสจะออกมาขวางลาร่าจะจัดการกับมาเทียสแล้วใช้คบเพลิงปักใส่อกฮิมิโกะทำให้ร่างกายของเธอแตกสลายไปพร้อมกับคำสาปบนเกาะนี้ ลาร่าจะพาแซมกลับไปพบเพื่อนทั้งสองคนและเดินทางออกจากเกาะ พร้อมกับปิดการเดินทางอันแสนโหดร้ายในครั้งนี้
ที่มา : www.os.co.th
ที่มา : www.os.co.th